สืบสวนเขาหลัก ตามรวบมือมีดแทงนักท่องเที่ยวออสซี่เจ็บสาหัส เหตุแย่งเสื้อตัวเดียว

สืบสวนเขาหลัก ตามรวบมือมีดแทงนักท่องเที่ยวออสซี่เจ็บสาหัส เหตุแย่งเสื้อตัวเดียว

พังงา ตำรวจชุดสืบเขาหลัก ตามรวบมือมีดแทงนักท่องเที่ยวเจ็บสาหัส เหตุแค่แย่งเสื้อ ล่าสุดแพทย์โรงพยาบาลตะกั่วป่าได้เข้าเร่งทำการผ่าตัดช่วยชีวิตนาย William จนอาการปลอดภัย เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 62 พ.ต.ต.จรัญ ศรีรักษ์ ร้อยเวรสอบสวน ชุดสืบสวน สภ.เขาหลัก ได้รับแจ้งว่า มีเหตุนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณ ด้านหน้า มอนสเตอร์ บาร์ เลขที่ 21/9 หมู่ 7 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบผู้บาดเจ็บเป็นนักท่อเที่ยวชาว ออสเตรเลีย ชื่อ Mr.William Mark Wayne อายุ 44 ปี พักอยู่โรงแรม Khaolak 2 Sleep เจ้าหน้าที่กู้ภัยเขาหลักเร่งนำตัวส่ง ศูนย์การแพทย์เขาหลัก แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงได้ทำการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตะกั่วป่า

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดจาก Mr.William นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย 

ได้นั่งดื่มเบียร์อยู่ที่หน้าร้าน มอนสเตอร์บาร์ กับ เพื่อนหญิงและชายชาวไทย จากนั้นมีคนร้ายชื่อนายฉนินทร์ อินณรงค์ ชื่อเล่นว่า ทิว ได้ขับรถยนต์มาจอดที่ริมถนนหน้าร้าน แล้วได้เดินเข้ามาหา เพื่อนผู้หญิงเพื่อต้องการเสื้อที่เธอใส่อยู่ ซึ่งเธอบอกว่าตนใส่อยู่ตอนนี้ให้ไม่ได้ค่อยมาเอาวันหลัง แต่นายฉนินทร์ บอกว่าต้องการเสื้อตอนนี้ให้ เธอถอดออกมา จึงเกิดการยื้อแย่งกันขึ้น นาย William ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเข้าใจผิดคิดว่านายฉนินทร์กำลังทำร้ายผู้หญิงจึงเข้าไปช่วยห้าม นายฉนินทร์ไม่พอใจ เกิดการชกต่อยขึ้น นาย ฉนินทร์ สู้ไม่ได้จึงใช้อาวุธมีดทีพกมาด้วยจ้วงแทงนาย Mr.William ถูกบริเวณ ต้นแขนข้างขวา ต้นแขนข้างซ้าย บริเวณท้องด้านขวา และไหปลาร้าข้างขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจกระจายกำลังติดตาม และสามารถจับกุมตัวนายฉนินทร์ได้ บริเวณหน้าผับชื่อดังในพื้นที่เขาหลัก ตรวจค้นตัวพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ ยาว 6 นิ้ว จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีดไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ คารวานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ในส่วนของการรักษานั้น ทีมแพทย์ได้นำตัวเข้าห้องผ่าเพื่อช่วยชีวิตโดยเร่งด่วนจนอาการปลอดภัยแล้ว สั่งย้ายตำรวจคลิปฉาว เรียกเก็บค่าจอดรถทัวร์ 100 บาท อ้างประเพณี ตำรวจเก็บค่าจอดรถ อ้างประเพณี – วันที่ 18 เม.ย. จากกรณีเฟซบุ๊ก คุณต้อม ทัวร์ คนขับรถทัวร์โพสต์คลิปตำรวจนายหนึ่งเรียกเก็บค่าจอดรถซึ่งกำลังจอดรถอยู่ข้างทาง 100 บาท อ้างว่าเป็น ประเพณี เมื่อไม่ยอมจ่ายก็ขอดูใบขับขี่ เหตุเกิดบริเวณหน้าสถานีขนส่งหมอชิต เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น

คืบหน้าล่าสุด จากการตรวจสอบยืนยันว่าบุคคลที่ถูกบันทึกภาพเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรจริง เบื้องต้น พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.บก.จร. ได้สั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงนายตำรวจรายดังกล่าวซึ่งมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตในหน้าที่และจะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ยัง ศปก.บก.จร. เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับประชาชนสั่งย้ายตำรวจคลิปฉาว เรียกเก็บค่าจอดรถทัวร์ 100 บาท อ้างประเพณี | ข่าวโดย Thaiger ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ย้ำมาโดยตลอดว่า ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ประพฤติในทางมิชอบ แสวงหา หรือ เรียกรับผลประโยชน์ หรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพฤตินอกรีต เรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ให้ดำเนินทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี

สธ.ห้ามรถพยาบาลใช้ความเร็วเกิน 80 กม.ต่อ ชม. ห้ามฝ่าไฟแดงทุกกรณี

รถพยาบาล – วันที่ 18 เม.ย. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ผู้บริหารระดับกระทรวงได้กำชับให้โรงพยาบาลวางมาตรการความปลอดภัยของผู้ป่วย ญาติ และเจ้าหน้าที่ขณะนำส่งผู้ป่วย ให้โรงพยาบาลทุกแห่งต้องทำประกันภัยรถพยาบาล ชั้น 1 ภาคสมัครใจ และเพิ่มวงเงินประกันภัยคุ้มครองผู้โดยสารหากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร เป็นคนละ 2 ล้านบาท สูงสุด 7 ที่นั่ง

“ได้กำชับให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุของรถพยาบาล โดยพนักงานขับรถพยาบาลต้องผ่านการอบรมหลักสูตรฝึกอบรมของกระทรวงสาธารณสุข และตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จำกัดความเร็วของรถพยาบาล ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กม./ชม.) ในรถต้องมีผู้โดยสารรวมพนักงานขับทั้งหมดไม่เกิน 7 คน ทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัย รถพยาบาลทุกคันต้องติดตั้งอุปกรณ์ GPS และกล้องวงจรปิดบันทึกภาพ ห้ามขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดงทุกกรณี และให้คำนึงถึงเวลาทำงานที่เหมาะสมของบุคลากรสาธารณสุข” นายแพทย์ถิระศักดิ์กล่าว

จากกรณีที่มีกลุ่มชายกว่า 20 คน ยกพวกตีกันในบริเวณโรงพยาบาลบางสะพานน้อย และเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ 9 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เรียกผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมมากกว่า 10 คน ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย รับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุชกต่อยกันในบริเวณโรงพยาบาลจริง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวเข้าไปส่งที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อขออำนาจศาลฝากขังและรอการสอบสวนเพิ่มเติม หลังครบกำหนดควบคุมตัว 48 ชั่วโมงในวันนี้ (18 เมษายน) ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้มีการพยายามให้ทั้งสองกลุ่มที่ยกพวกตีกัน คุย เคลียร์ปัญหาที่คาใจกัน แต่ยังไม่เป็นผล