จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “เทอดศักดิ์ หัตถศิลปทรัพย์” ได้โพสต์วีดิโอคลิปความยาวประมาณ 1.41 นาที พร้อมข้อความระบุว่า “หนักไปหน่อย” ซึ่งในคลิปดังกล่าว เป็นภาพจากกล้องหน้ารถคันหนึ่งแสดงให้เห็นภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนดาเวฟทะเบียน 1 กฉ 5438 ภูเก็ต ล้มตะแคงอยู่ริมฟุตปาธข้างถนน บริเวณถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาเข้า หน้าร้านสะดวกซื้อเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส์ วงเวียน อนุสาวรีย์ ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร บ้านท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนจะมีพลเมืองดี 3 คนเข้าไปช่วยพยุงตัวและรถจยย.ขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวได้พยายามขับจยย.ไปต่อ แต่เมื่อขับรถจยย.ไปได้ประมาณ 5 เมตรรถจยย.ได้เซเข้าข้างทางไปจอดพิงกับราวเหล็กกันขอบถนนอีกครั้ง
ทั้งนี้หลังมีการโพสต์คลิปดังกล่าวก็มีคนเข้าไปแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก
ส่วนใหญ่ให้ความเห็นในเชิงเสียดสีและตั้งข้อสังเกตุว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว มีอาการคล้ายกับคนที่อยู่ในอาการเมาสุรา ผู้สื่อข่าวได้พยายามหาข้อมูลจนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดของ สถานีตำรวจภูธร ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จึงสอบถามไปยัง พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สภ.เชิงทะเล ผู้บังคับบัญชา จนได้ความว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.เชิงทะเล จริง ทราบชื่อคือ ด.ต.วิศรุต อุดมจิต ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ สภ.เชิงทะเล เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.ของวันเสาร์ ที่ 25 พ.ค.62 ที่ผ่านมา หลังจากที่ด.ต.วิศรุต ออกเวรปฎิบัติหน้าที่ที่สภ.เชิงทะเล ได้ขับจยย.เดินทางกลับบ้าน แต่เนื่องจากมีอายุมากและมีอาการป่วยด้วยอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน และประกอบกับที่ร่างกายอ่อนแอจึงเกิดอาการวิงเวียนศรีษะ ควบคุมรถไม่ไหว ต้องนำรถเข้าจอดข้างทางในจุดดังกล่าว ซึ่งอยู่บริเวณถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาเข้า หน้าร้านสะดวกซื้อเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส์ วงเวียน อนุสาวรีย์ ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร แต่ขณะจอดรถก็ทรงตัวไม่ได้ ประกอบกับที่ก่อนหน้านี้ด.ต.วิศรุต ได้ประสบอุบัติเหตุกระดูกแตกที่ขาต้องใส่เหล็กดามไว้ จึงทำให้ขาไม่มีแรง รถจึงล้มตะแคงบนฟุตปาธ ก่อนจะมีพลเมืองดีมาเข้ามาช่วยประคอง เมื่อด.ต.วิศรุต ได้พักไม่นานก็สามารถขับรถต่อได้ จึงขับรถจยย.กลับไปเรื่อยๆจนถึงบ้านพัก และขณะนี้ด.ต.วิศรุต อยู่ระหว่างลาพักเพื่อรักษาอาการป่วย
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อกนิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้สังคมอย่างเพิ่งด่วนตัดสิน และให้ความเป็นธรรมกับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนด้วย ยืนยัน จนท.นายดังกล่าวอยู่ในอาการป่วย ไม่ได้มีอาการเมาสุราแต่อย่างใด
โชเฟอร์รถเมล์หนีคดีกว่า 15 ปี ตร.รวบได้ก่อนคดีความหมดอายุเดือนเดียว วันนี้ (28 พ.ค.)เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้นำกำลังบุกเข้าตรวจค้น อพาทเม้นต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยทุ่งเศรษฐี แยก 21 เขตประเวศ กทม.และจับกุม นายสุคะโชติ คุณศิลป์ อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา “พรากผู้เยาว์อายุเกินกว่าสิบห้าปี“ ย้อนไปเมื่อปี 2547 ขณะนั้นนายสุคะโชติ มีอาชีพขับจยย.รับจ้างอยู่ที่ย่านลำลูกกา ได้ก่อเหตุลวงเด็กสาว 16 ปี ไปเพื่อกระทำอนาจาร โดยหลังจากที่ผู้ปกครองของเด็กสาวคนดังกล่าวทราบเรื่องก็ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี และออกหมายจับ นายสุคะโชติ จึงหลบหนี่ไปกบดาน กว่า 15 ปี กระทั่งชุดสืบสวนสืบทราบว่า ปัจจุบันผู้ต้องหาได้ไปทำงานเป็นพนักงานขับรถโดยสาร ประจำทาง สาย 38 จึงนำกำลังเข้าจับกุมไว้ได้ในที่สุด ก่อนที่คดีจะหมดอายุความในวันที่ 4 ก.ค.ที่จะถึงนี้
นายกฯ ทม.ป่าตอง สั่งแจ้งความดำเนินคดี โรงแรมดังปล่อยน้ำเสียลงทะเลหาดกะหลิม
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 17.52 ของวันที่ 26 พ.ค.62 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “Bong Marquez” ซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้โพสต์วีดิโอคลิปความยาวประมาณ 2.42 นาที พร้อมข้อความระบุว่า “Kalim beach phuket, Thailand” ซึ่งในคลิปดังกล่าวเป็นภาพน้ำสีดำที่พุ่งผุดขึ้นจากพื้นทรายก่อนไหลไปตามชายหาดและไหลลงสู่ทะเล ซึ่งคลิปดังกล่าวได้มีการส่งต่อและแชร์ออกไปจำนวนมาก
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00น.วันนี้ ( 27 พ.ค.62 )นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองช่างสุขาภิบาล และเจ้าหน้าที่ดูแลระบบบำบัดน้ำเสียให้ของเทศบาลฯ ได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าหาดกะหลิม หมู่ที่ 1 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตเพื่อตรวจสอบหาจุดมีการปล่อยน้ำเสียลงทะเลตามที่ปรากฏในคลิป จนพบจุดที่มีน้ำเสียไหลลงทะเล
ทั้งนี้ นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยว่า หลังจากได้ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่าเหตุการณ์น้ำเสียที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความผิดพลาดของระบบบำบัดน้ำเสียของทางเทศบาลฯ หรือไม่ หรือว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งผลจากการตรวจสอบพบว่าสาเหตุไม่ได้มาจากระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลฯ ระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลฯ ไม่มีการปล่อยน้ำโอเวอร์โฟล (Overflow) ลงตรงจุดนั้น เพราะฉะนั้นเราจึงสันนิฐานตอนแรกว่าน่าจะเป็นท่อของเอกชน หรือของใครที่วางเฉพาะลงมา จึงให้เจ้าหน้าที่ทดสอบโดยการเอาสีแดงใส่ลงไปในระบบบำบัดน้ำเสียของโรงแรมฝั่งตรงข้าม ซึ่งเมื่อใส่สีแดงลงไปปรากฏว่า น้ำสีแดงได้ไหลออกมาตรงจุดที่มีน้ำเสียไหลออกมาเมื่อวาน (26 พ.ค.62) จึงได้บทสรุปว่า ท่อน้ำที่มีน้ำเสียออกมาเป็นท่อน้ำเสียของ “โรงแรมกะหลิม เบย์” ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพ เก็บหลักฐานทั้งหมด เพื่อนำไปแจ้งความดำเนินคดีต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกล่าวหา ซึ่งคาดว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีในวันพรุ่งนี้ ( 28 พ.ค.62) ขณะเดียวกันได้สั่งการให้โรงแรมเจ้าของพื้นที่ดำเนินการซ่อมแซมบ่อบำบัดน้ำเสียที่ชำรุดให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า จุดดังกล่าวจะมีน้ำเสียไหลลงมาเฉลี่ยทุกๆ 15 วัน แต่มีปริมาณไม่มาก ทำให้ก่อนหน้านี้ไม่มีใครร้องเรียน หรือแจ้งให้ทางเทศบาลทราบ กระทั่งครั้งนี้มีน้ำเสียไหลออกมาจำนวนมากจึงมีการถ่ายคลิปโพสต์รวมถึงร้องเรียนไปยังเทศบาลให้ลงมาตรวจสอบ อย่างไรก็ตามถึงแม้จะสั่งการให้เจ้าของพื้นที่ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยแล้วก็จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย เพื่อให้เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่าง ให้เห็นว่าการที่ไม่เคารพกฎหมายนั้นถือเป็นความผิด และเป็นการไม่รับผิดชอบต่อสังคม